คู่มือเริ่มใช้งานฉบับย่อนี้มีไว้สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ต้องการใช้ AdMob เพื่อสร้างรายได้จากแอปที่สร้างด้วย Firebase หากคุณไม่มีแผนที่จะรวม Firebase ไว้ในแอป ให้ไปที่คู่มือ AdMob แบบสแตนด์อโลนแทน
ดูประโยชน์ทั้งหมดของการใช้ AdMob, Firebase และ Google Analytics ร่วมกัน หากยังไม่ได้ดู
ก่อนเริ่มต้น
หากยังไม่มีโปรเจ็กต์ Firebase และแอป Firebase ให้ทำตาม ค��่มือเริ่มต้นใช้งาน Firebase เพิ่ม Firebase ลงในโปรเจ็กต์ Android
ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Google Analytics ในโปรเจ็กต์ Firebase แล้ว โดยทำดังนี้
หากคุณกำลังสร้างโปรเจ็กต์ Firebase ใหม่ ให้เปิดใช้ Google Analytics ในระหว่างกระบวนการสร้างโปรเจ็กต์
หากมีโปรเจ็กต์ Firebase เดิมที่ไม่ได้เปิดใช้ Google Analytics คุณเปิดใช้ Google Analytics ได้จากแท็บการผสานรวมของ
> การตั้งค่าโปรเจ็กต์
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่าแอปในบัญชี AdMob
ลงทะเบียนแอปของคุณเป็นแอป AdMob
ลงชื่อเข้าใช้หรือลงชื่อสมัครใช้บัญชี AdMob
ลงทะเบียนแอปกับ AdMob ขั้นตอนนี้จะสร้างแอป AdMob ที่มีรหัสแอป AdMob ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุณจะต้องใช้ภายหลังในคู่มือนี้
ระบบจะขอให้คุณเพิ่ม SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ลงในแอป ดูวิธีการโดยละเอียดสำหรับงานนี้ได้ภายหลังในคู่มือนี้
ลิงก์แอป AdMob กับแอป Firebase
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ไม่บังคับ แต่ขอแนะนำอย่างยิ่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของการเปิดใช้เมตริกผู้ใช้และการลิงก์แอป AdMob กับ Firebase
ทำตาม 2 ขั้นตอนต่อไปนี้ในแดชบอร์ดแอปของบัญชี AdMob
เปิดใช้ เมตริกผู้ใช้ เพื่อให้ AdMob ประมวลผลและแสดงข้อมูลการวิเคราะห์ที่ได้รับการดูแลจัดการในบัญชี AdMob ของคุณ นอกจากนี้ ยังเป็นการตั้งค่าที่จำเป็นสำหรับการลิงก์ แอป AdMob กับ Firebase ด้วย
ลิงก์แอป AdMob กับโปรเจ็กต์ Firebase และแอป Firebase ที่มีอยู่
ตรวจสอบว่าคุณป้อนชื่อแพ็กเกจเดียว��ันกับที่ป้อนสำหรับแอป Firebase หาชื่อแพ็กเกจของแอป Firebase ในการ์ดแอปของคุณ ของ
การตั้งค่าโปรเจ็กต์ >
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มรหัสแอป AdMob ลงในไฟล์ AndroidManifest.xml
เพิ่มรหัสแอป AdMob ลงในไฟล์ AndroidManifest.xml
ของแอปโดยเพิ่มแท็ก <meta-data>
ตามที่แสดงด้านล่าง
<manifest> <application> <!-- Sample AdMob App ID: ca-app-pub-3940256099942544~3347511713 --> <meta-data android:name="com.google.android.gms.ads.APPLICATION_ID" android:value="ADMOB_APP_ID"/> </application> </manifest>
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มและเริ่มต้น SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่
เพิ่มทรัพยากร Dependency สำหรับ SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google ลงในไฟล์ Gradle ของโมดูล (ระดับแอป) (โดยปกติจะเป็น
<project>/<app-module>/build.gradle.kts
หรือ<project>/<app-module>/build.gradle
) ดังนี้implementation("com.google.android.gms:play-services-ads:23.2.0")
ก่อนโหลดโฆษณา ให้เรียกใช้เมธอด
MobileAds.initialize()
การเรียกนี้จะเริ่มต้น SDK และเรียก Listener ที่สำเร็จกลับมาเมื่อการเริ่มต้นเสร็จสมบูรณ์ (หรือหลังจากหมดเวลา 30 วินาที) เรียกใช้วิธีการนี้เพียงครั้งเดียวและเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อเปิดแอป
ต่อไปนี้คือตัวอย่างการเรียกเมธอด
initialize()
ในกิจกรรมKotlin+KTX
override fun onCreate(savedInstanceState: Bundle?) { super.onCreate(savedInstanceState) // ... MobileAds.initialize(this) }
Java
@Override protected void onCreate(Bundle savedInstanceState) { super.onCreate(savedInstanceState); // ... MobileAds.initialize(this); }
ขั้นตอนที่ 4: ดูเมตริกผู้ใช้และข้อมูลวิเคราะห์
หลังจากเริ่มต้นแล้ว Mobile Ads SDK จะเริ่มบันทึกเหตุการณ์และพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้ของ Analytics จากแอปของคุณโดยอัตโนมัติ คุณสามารถดูข้อมูลนี้ได้โดยไม่ต้องเพิ่มโค้ดใดๆ ลงในแอปหรือติดตั้งใช้งานโฆษณาใดๆ คุณดูข้อมูลวิเคราะห์��ี้ได้โดยทำ��ังนี้
ในการ์ดเมตริกผู้ใช้ของบัญชี AdMob (หน้าแรกหรือแดชบอร์ดแอป) คุณสามารถดูเมตริกผู้ใช้ที่คัดสรรมาจาก ข้อมูลวิเคราะห์ที่รวบรวมได้ เช่น ระยะเวลาเซสชันเฉลี่ย, ARPU และการคงผู้ใช้ไว้
คุณดูสถิติรวมและสรุปเมตริกที่สำคัญได้ในหน้าแดชบอร์ด Analytics ของคอนโซล Firebase หากเพิ่ม Firebase SDK สำหรับ Google Analytics คุณจะทำเครื่องหมาย Conversion สำหรับแคมเปญโฆษณาและสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองในคอนโซล Firebase ได้ด้วย
โปรดทราบว่าเพื่อให้แสดงเมตริก ARPU และ ARPPU ได้ดีขึ้น คุณอาจต้องรวมข้อมูลจากเหตุการณ์ที่กำหนดเองของ Analytics ที่เรียกว่า ecommerce_purchase
ในการคำนวณรายได้สำหรับเมตริกเหล่านี้ (ดูวิธีการ)
ขั้นตอนที่ 5: (ไม่บังคับ) ใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ของ Google Analytics และ Firebase
ใช้ประโยชน์จากโอกาสและฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการสร้างรายได้จากแอปและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้
เพิ่มและใช้ Firebase SDK สำหรับ Google Analytics
ใช้การบันทึกเหตุการณ์ที่กำหนดเองในแอป
ทำเครื่องหมาย Conversion สำหรับแคมเปญโฆษณาที่กำหนดเอง
รวมข้อมูลเหตุการณ์
ecommerce_purchase
ในการคํานวณรายได้สำหรับเมตริก ARPU และ ARPPU
หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูคู่มือการใช้ Google Analytics และ Firebase กับแอป AdMob
ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Firebase ในแอป
หลังจากเพิ่ม Firebase SDK สำหรับ Google Analytics แล้ว ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ Firebase อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาในแอป
การกำหนดค่าระยะไกลช่วยให้คุณเปลี่ยนลักษณะการทำงานและรูปลักษณ์ของแอปได้โดยไม่ต้องเผยแพร่การอัปเดตแอปสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
การทดสอบ A/B ให้คุณทดสอบการเปลี่ยนแปลงใน UI, ฟีเจอร์ หรือแคมเปญการมีส่วนร่วมของแอปเพื่อดูว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นส่งผลต่อเมตริกหลัก (เช่น รายได้และการรักษาผู้ใช้) หรือไม่ ก่อนที่จะนำการเปลี่ยนแปลงออกในวงกว้าง
เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้จากโฆษณาให้กับแอป
ลองใช้รูปแบบโฆษณาหรือการกำหนดค่าต่างๆ กับผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ แล้วทำการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลในการติดตั้งโฆษณากับผู้ใช้ทุกคน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูบทแนะนำต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 6: เลือกรูปแบบโฆษณาที่จะใช้ในแอป
AdMob มีรูปแบบโฆษณาต่างๆ มากมาย คุณจึงสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะกับประสบการณ์ของผู้ใช้ในแอปมากที่สุด คลิกปุ่มเพื่อดูรูปแบบโฆษณาเพื่อดูรายละเอียดวิธีการใช้งานในเอกสาร AdMob
แบนเนอร์
โฆษณาสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปรากฏด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจออุปกรณ์
โฆษณาแบนเนอร์จะแสดงบนหน้าจอขณะที่ผู้ใช้โต้ตอบกับแอป และจะรีเฟรชโดยอัตโนมัติได้หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ติดตั้งใช้งานโฆษณาแบนเนอร์โฆษณาคั่นระหว่างหน้า
โฆษณาแบบเต็มหน้าจอที่ครอบคลุมอินเทอร์เฟซของแอปจนกว่าผู้ใช้จะปิด
โฆษณาคั่นระหว่างหน้าจะใช้ได้ผลดีที่สุดในการหยุดชั่วคราวระหว่างการดำเนินการของแอป เช่น ระหว่างเลเวลเกมหรือหลังจากที่ทำงานเสร็จ
ติดตั้งโฆษณาคั่นระหว่างหน้าเนทีฟ
โฆษณาที่ปรับแต่งได้ซึ่งตรงกับรูปลักษณ์ของแอป
โฆษณาเนทีฟเป็นรูปแบบโฆษณาที่อิงตามคอมโพเนนต์ คุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะวางโฆษณาเนทีฟอย่างไรและ ในตำแหน่งใด เพื่อให้เลย์เอาต์สอดคล้องกับการออกแบบของแอปมากขึ้น เมื่อเลือกแบบอักษร สี และรายละเอียดอื่นๆ เอง คุณจะสามารถสร้างการนำเสนอโฆษณาที่เป็นธรรมชาติและไม่รบกวนสายตา ซึ่งสามารถเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างมาก
ติดตั้งใช้งานโฆษณาเนทีฟขั้นสูงให้รางวัล
โฆษณาที่ให้รางวัลผู้ใช้หลังจากดูวิดีโอสั้นๆ และโต้ตอบกับโฆษณาที่เล่นได้และแบบสำรวจ
โฆษณาที่มีการให้รางวัล (หรือ "ตามรางวัล") ช่วยสร้างรายได้จากผู้ใช้ที่เล่นเกมฟรี
ใช้โฆษณาที่มีการให้รางวัล | ใช้โฆษณาที่มีการให้รางวัล (API ใหม่) |